Highlights
ความรู้สึกไม่มีความสุขในชีวิต คือสภาวะหนึ่งของอารมณ์ ซึ่งทุกคนมีโอกาสเป็นได้
หลายครั้งที่คนที่รู้สึกไม่มีความสุขกับชีวิตจะเครียดกับปัญหา เบื่อกับการทำสิ่งต่างๆ ขาดคนสนับสนุนและเข้าใจ ไม่มีความสุข ไม่อยากทำอะไร
การถามตัวเองด้วยคำถามต่างๆ เพื่อค้นหาว่าอะไรเกิดขึ้นในชีวิตของคุณ จะช่วยทำให้คุณมองเห็นที่มาที่ไปของความรู้สึกไม่มีความสุขกับชีวิต
บางครั้งเหมือนเราใช้ชีวิตที่ว่างเปล่า เราไม่ได้มีความสุขกับชีวิตมากนัก และเหมือนกับว่าโลกนี้เองก็ไม่ได้สดใสมากขนาดนั้น เมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีความรู้สึกไม่มีความสุขกับชีวิต เบื่อๆ ไม่อยากทำอะไร คุณควรจะเริ่มใส่ใจดูแลตัวเอง โดยเฉพาะกลับมาถามตัวเองเรื่องการใช้ชีวิต เป้าหมายของชีวิต หรือสาเหตุที่มาที่ไปของความรู้สึกนี้
ความรู้สึกว่าชีวิตไม่ค่อยมีความสุขอาจเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ บางครั้งคุณอาจมีภาระที่ต้องดูแลมากเกินไป ต้องอดทนทำอะไรมาอย่างยาวนาน ไม่ได้เจอเพื่อน หรืออาจเกิดจากสภาพแวดล้อมสังคมที่ทำให้คุณไม่ค่อยมีความสุขกับชีวิตเท่าไหร การได้กลับมาสำรวจสิ่งเหล่านี้ช่วยทำให้คุณได้เห็นปัญหาและแก้ไขได้ ก่อนที่คุณอาจมีอาการแย่กว่าเดิม
หากคุณมีความเครียด หรือเรื่องที่ไม่สบายใจ คุณอาจใช้การเขียน Expressive Writing เพื่อระบายความเครียด เยียวยาสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยเหลือและระบายสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา
เนื้อหาในบทความ
อาการของคนที่รู้สึกว่าไม่มีความสุขในชีวิตมีลักษณะเป็นอย่างไร?
ไม่มีความสุข ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากคุยกับใคร
รู้สึกเบื่อกับสิ่งต่างๆ เช่นเบื่อโลก เบื่อชีวิต
เหมือนไม่มีเป้าหมาย ไม่มีแรงบันดาลใจ ไม่มีที่ยึดเหนี่ยว
รู้สึกว่าทำสิ่งต่างๆ เช่น งาน หรือเรียน ไปแค่เพราะต้องทำตามหน้าที่ทำทุกวัน
มีชีวิตอยู่เพื่อให้คนอื่นเช่นครอบครัว คนที่สำคัญ รู้สึกสบายใจ โดยรู้สึกว่าตัวเองอาจไม่ต้องมีความสุขหรือเป้าหมายอะไร
เครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้น วิตกกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว ผ่านไปแล้วในอดีต
รู้สึกไม่มีคนเข้าใจ สังคม ที่ทำงาน หรือครอบครัวไม่ได้เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่ หรือทำอยู่จริงๆ
รู้สึกชีวิตนี้ไม่มีค่า ไม่มีอะไรดีเลย ไม่มีความภูมิใจ หรือภูมิใจน้อยลง
สาเหตุของความรู้สึกไม่มีความสุขในชีวิต
ความรู้สึกนี้มีที่มาที่ไป แต่บางครั้งการจะค้นหาสาเหตุของความรู้สึกไม่มีความสุขในชีวิตกลับเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและค่อยๆ สำรวจแง่มุมต่างๆ ของชีวิต โดยคุณอาจสำรวจแง่มุมต่างๆ เหล่านี้ได้เช่น
ความเหนื่อยล้าจากการทำงานที่สะสม โดยเฉพาะในยุคสมัยนี้ที่เวลาทำงานถูกขยายออกไปมากกว่าการทำงานแบบเดิมๆ การแข่งขันกลับสูงยิ่งขึ้น หรือบางคนอาจเกิดจากสภาวะหมดไฟ (burnout) จนต้องหาอะไรมาทำเพื่อที่จะให้ตัวเองได้มีอะไรทำอยู่เสมอ และกลับไปเหนื่อยล้าอีก
ไม่มีพื้นที่สำหรับการพักผ่อน การพักผ่อนในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการหยุดยาวไปเที่ยวเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการพักผ่อนในช่วงเวลาสั้นๆ และช่วงเวลาเหล่านี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญด้วยเช่นหลังเลิกงาน ช่วงเวลาที่อาศัยอยู่บ้านหลังเลิกงานของคุณเป็นช่วงเวลาที่คุณรู้สึกสบายไหม? หรือเป็นที่ๆ คุณรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่สะดวกสบายที่จะอยู่ หากคุณไม่มีพื้นที่สำหรับการพักผ่อนจะทำให้คุณ
เกิดจากการตำหนิตัวเองอย่างซ้ำๆ จนเป็นนิสัย จนเกิดเป็นเสียงวิจารณ์ภายใน (Critical Inner Voices) ที่ทำให้ตัวเองรู้สึกบั่นทอนไปเรื่อยๆ เสียงเหล่านี้อาจเป็นเสียงด่าตัวเองขณะที่ตนเองทำผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ หรือความรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่ากว่าคนอื่นๆ
รู้สึกไม่พอใจบางสิ่งบางอย่างในตัวเองเช่น รูปร่าง หน้าตา หรือสถานภาพบางอย่างของตนเอง สิ่งเหล่านี้อาจทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าน้อยกว่าคนอื่น
ถูกบูลลี่ (bully) กลั่นแกล้ง จากเพื่อน เพื่อนร่วมงาน หรือสังคม
อาการไม่มีความสุขในชีวิตคือโรคซึมเศร้าใช่หรือไม่?
คำตอบอย่างสั้นๆ คือ ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคซึมเศร้า
อาการไม่มีความสุขในชีวิต คือสภาวะหนึ่งของอารมณ์ ซึ่งแตกต่างกับโรคซึมเศร้าที่เกิดปัญหาอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการทำงานของสมองและการประมวลผล สภาวะที่คุณไม่มีความสุขในชีวิตอาจเป็นเพียงชั่วระยะเวลาขณะหนึ่งซึ่งไม่ได้ส่งผลมากมายนัก แต่สภาวะซึมเศร้าอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นเป็นธรรมดาที่คุณอาจมีอาการไม่มีความสุขในชีวิต โดยไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้าตามความหมายของจิตวิทยาคลินิก
แต่อาการไม่มีความสุขในชีวิตในลักษณะนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งหรือนำไปสู่อาการของโรคซึมเศร้าได้ ซึ่งโรคซึมเศร้าจะมีอาการที่รุนแรงและมีผลต่อเนื่องที่รุนแรงมากกว่า หากคุณไม่แน่ใจว่าอาการของคุณเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ คุณควรจะได้รับการปรึกษาและวินิฉัยจากผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ผู้ดูแลเฉพาะทางก่อนตัดสินด้วยตนเองว่าคุณเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ เพราะโรคซึมเศร้าต้องอาศัยการวินิฉัยอย่างถูกต้อง การทำแบบทดสอบความวิตกกังวลด้วยตัวเอง หรือแบบทดสอบคัดกรองโรคซึมเศร้าด้วยตัวเอง อาจไม่เพียงพอในการวินิฉัยโรคซึมเศร้า
การไปพบนักจิตวิทยาจากความรู้สึกไม่มีความสุขในชีวิตเป็นเหตุผลที่เพียงพอและมากพอสำหรับคุณในการไปพบนักจิตวิทยา ดังนั้นหากคุณรู้สึกไม่มีความสุขกับชีวิตเป็นระยะเวลานาน คุณอาจหาเวลาเพื่อนัดพบกับนักจิตวิทยาเพื่อสำรวจหาสาเหตุของมันได้
การดูแลตัวเองหากคุณมีอาการไม่มีความสุขในชีวิต
หากคุณรู้สึกเศร้า หรือไม่มีความสุขกับชีวิต แต่คุณไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า อาจเป็นสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงการดูแลตัวเอง ซึ่งลักษณะของความรู้สึกไม่มีความสุขในชีวิตอาจมีหลายระดับที่แตกต่างกันออกไป ในการดูแลตัวเองคุณสามารถทำได้ดังนี้
ค้นหาสาเหตุของอาการไม่มีความสุข
กลับมาตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวเองว่าอะไรเกิดขึ้นในชีวิตของคุณด้วยคำถามต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะช่วยทำให้คุณมองเห็นที่มาที่ไปของสภาวะไม่มีความสุขในชีวิตของคุณได้เช่นการตั้งคำถามว่า
คุณกำลังรู้สึกเหงา โดดเดี่ยวทางความสัมพันธ์อยู่หรือไม่?
งานที่คุณกำลังทำอยู่ ทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุขในชีวิตอยู่หรือไม่?
คุณกำลังทำอะไรบางอย่างที่ขัดแย้งกับความต้องการลึกๆ อยู่หรือไม่?
คุณไม่ได้ตอบสนองความต้องการบางอย่างของคุณอยู่หรือไม่?
คุณมีภาระบางอย่างที่ต้องดูแลมากเกินไปใช่หรือไม่?
ไม่มีใครเข้าใจคุณใช่หรือไม่?
หากคุณได้สำรวจที่มาที่ไปของปัญหา หรือสาเหตุที่ทำให้คุณไม่มีความสุขอย่างจริงจังแล้ว สิ่งต่อไปคือคุณควรจะมองหาการเปลี่ยนแปลง และคุณควรเตรียมพร้อมรับมือเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น
หากคุณรู้สึกไม่มีความสุขกับชีวิตเพราะที่ผ่านมามีอารมณ์ด้านลบเช่น ความกลัว ความหงุดหงิด ความผิดหวังต่างๆ เข้ามาการแปรเปลี่ยนความรู้สึกด้านลบด้วยความเข้าใจอาจเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรเริ่มต้นดูแลตัวเอง
ตั้งเป้าหมายในชีวิตของคุณ
เมื่อคุณรู้ที่มาที่ไปของปัญหาแล้ว คุณสามารถตั้งเป้าหมายและกำหนดได้ว่าคุณต้องการอะไรเพื่อให้ตัวเองได้มีความสุขในชีวิตมากขึ้น หากคุณรู้สึกว่าตัวเองยังไม่มีเป้าหมายในชีวิตคุณอาจใช้เทคนิควิธีในการค้นหาเป้าหมายในชีวิตของคุณดู
การมีความสุขในชีวิตอาจไม่ใช่การได้รับเงินมากๆ ชื่อเสียงที่โด่งดัง หรือการทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ แต่กลับกันมันมักเป็นเรื่องใกล้ตัวอย่างเช่นการได้ใช้เวลาดีๆ อยู่กับคนรอบข้าง ทำงานที่รักและมีความสุขกับมัน อยู่กับสังคมที่เรารู้สึกและเข้ากันกับเรา
อยู่กับกลุ่มเพื่อนที่เข้าใจคุณ
ไม่ว่าคุณจะค้นพบเป้าหมายของตัวเองแล้วหรือไม่ แต่หากคุณได้มีกลุ่มคนที่เข้าใจคุณและพร้อมจะสนับสนุนคุณอยู่จะช่วยทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น เพราะการแลกเลปี่ยนประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกันเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญต่อมุมมองที่คุณมีอยู่ โดยเฉพาะการมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่เข้าใจคุณจริงๆ ไม่ใช่การพูดคุยผ่าน Social Network จะช่วยทำให้คุณได้รู้สึกเชื่อมต่อกับคนอื่นได้มากขึ้น
สร้าง Self-compassion ให้กับตัวเอง
Self-compassion เป็นความใจดี ความเข้าใจที่คุณมีให้กับตนเอง โดยเฉพาะเมื่อคุณประสบกับความล้มเหลว ผิดพลาด โดยที่จะช่วยทำให้เราก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากหรือการทำผิดพลาดออกไปได้
เมื่อคุณตั้งใจจะสำรวจตัวเองเกี่ยวกับความรู้สึกไม่มีความสุขกับชีวิตที่เกิดขึ้น แม้ว่าในระยะแรกคุณอาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงความรู้สึกเหล่านี้ในทันทีแต่ในระยะยาวคุณจะค่อยๆ มี self-awareness และเริ่มรู้จักตัวเองมากขึ้นซึ่งจะนำไปสู่การมีความสุขในระยะยาวของตัวเองได้ในที่สุด
แต่หากคุณความรู้สึกไม่มีความสุขกับชีวิตอย่างรุนแรงและต้องการสำรวจที่มาที่ไปของมัน คุณอาจลองหากิจกรรมต่างๆ เช่นศิลปะบำบัดหรือลองทำ Happiness Worksheet เพื่อสำรวจความรู้สึกและที่มาที่ไปของมันอย่างจริงจังดูได้
#สภาวะภายใน #ไม่มีความสุข #ความทุกข์
Urbinner เป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้เติบโตจากการเรียนรู้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยทีมนักจัดกระบวนการจะพาคุณไปเรียนรู้ทักษะที่นำไปสู่การเข้าใจตัวเอง สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการตระหนักรู้้ร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนสามารถทำในสิ่งที่มีคุณค่าและความหมายสำหรับตัวเอง องค์กร และชุมชนของเราได้
