Highlights
วิธีค้นหาและตั้งเป้าหมายให้กับชีวิตของเรา เกิดจากการค่อยๆ สำรวจและสะท้อนตัวเอง
เป้าหมายในชีวิตที่เรามีควรเกิดขึ้นจากความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง ความต้องการของตัวเอง ไม่ใช่ความต้องการของสภาพสังคม บุคคลดัง เป็นเป้าหมายที่เรารู้สึกกับมัน
ระยะเวลาในการค้นหาและตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองมีความสำคัญ หลังจากที่ตั้งเป้าหมายให้กับตนเองได้แล้ว อาจใช้ชีวิตอยู่กับเป้าหมายนั้นดูก่อน 1 ปี 2 ปี เพื่อดูว่าเรารู้สึกอย่างไรกับมัน
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังรู้สึกชีวิตไม่มีทิศทาง การได้ให้เวลาตัวเองเพื่อทบทวนว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณเองจริงๆ เป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะการค้นหาตัวเอง ทบทวนว่าตัวเองต้องการอะไร และอยากมีชีวิตอยู่เพื่อทำอะไร จะช่วยเติมเต็มให้ชีวิตมีความสุข คุณค่า และความพอใจด้วยได้
การค้นหาและตั้งเป้าหมายในชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย หากเราใช้เวลานั่งดื่มกาแฟมานึกถึงเป้าหมายในชีวิต ค้นหาดูรายการที่ให้แรงบันดาลใจ หรือพยายามค้นหาเป้าหมายในชีวิตด้วย อินเตอร์เน็ตก็อาจได้คำตอบที่เราไม่แน่ใจนักว่า "นี่เป็นเป้าหมายในชีวิตของตัวเราเองจริงๆ ใช่ไหม"
นั่นเป็นเพราะวิธีค้นหาและตั้งเป้าหมายให้กับชีวิตควรเกิดขึ้นจากความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง ดังนั้นการค้นหาและตั้งเป้าหมายให้กับชีวิตของตัวเองควรจะมาจากสิ่งที่เป็นตัวเรา มากกว่าคำคม ความสำเร็จ ความพอใจของสังคม เมื่อเป้าหมายเหล่านั้นเป็นเป้าหมายที่มาจากความรู้สึก ความต้องการของเรา เป้าหมายเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับตัวเองจริงๆ และช่วยเกื้อกูลการใช้ชีวิต การตัดสินใจของเรามากกว่าการเป็นภาระหรือหน้าที่ที่เราต้องไคว่คว้ามา
หลายครั้งที่เราได้รับคำแนะนำให้ออกไปค้นหาตัวเองเพื่อที่จะมีเป้าหมายในชีวิต หากค้นหาบทความหรือฟัง podcast อาจมีหลากหลายบทความที่แนะนำวิธีให้คุณสามารถค้นหาและตั้งเป้าหมายให้กับชีวิตตัวเองอย่างหลากหลาย แต่ก็มักจะบอกให้ทำในสิ่งที่ไม่จำเพาะเจาะจงมากนักเช่น
การออกไปหาสิ่งใหม่ๆ ทำ
ฟังเสียงตัวเอง
จินตนาการถึงอนาคต
เขียนบันทึก
เริ่มหาสิ่งที่รัก งานอดิเรก
การทำสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี แต่ก็ควรที่จะกลับมาสำรวจตัวเอง โดยคุณอาจค่อยๆ เริ่มต้นจากการค่อยๆ หาสิ่งที่มีความหมายในชีวิตทีละเล็กทีละน้อยจนเป็นรูปเป็นร่างมากยิ่งขึ้น
ระยะเวลาที่ใช้ในการค้นหาเป้าหมายชีวิตให้กับตนเอง
ในการสำรวจตัวเองเรื่องต่างๆ อาจเป็นเรื่องยากที่คุณจะสามารถได้เป้าหมายในชีวิตขึ้นมาได้ทันที การค้นหาและตั้งเป้าหมายให้กับชีวิตเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยระยะเวลา ซึ่งอาจกินเวลานาน 1 ปี 2 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกันตอนที่เรียนจบ หรือเกิดขึ้นก่อนเลือกเรียน
การเรียนรู้การสะท้อนตัวเอง การเขียนบันทึก อย่างต่อเนื่องอาจเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้เรามีความชัดเจนในการค้นหาตัวเองมากขึ้น เพราะการทำสิ่งเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนให้เรามองเห็นตัวเองเป็นระยะเวลานานจนค้นพบบางอย่างที่มีคุณค่ากับตัวเอง
นอกจากนี้ในการค้นหาและตั้งเป้าหมายให้กับชีวิต สิ่งที่เราต้องการคือ การมีเป้าหมายชีวิตที่สัมผัสใจของตัวเอง มั่นคงและยืนยาว ไม่ใช่การมีเป้าหมายชีวิตที่เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียงสั้นๆ ดูดี เท่ห์ในสายตาใครบางคน หรือเป็นสิ่งที่เราไม่รู้สึกกับมัน
เครื่องมือและวิธีค้นหาตั้งเป้าหมายให้กับชีวิต
1. เทคนิคค้นหาและสร้างเป้าหมายหนึ่งอย่างในแต่ละด้านของชีวิต
การค้นหาและสร้างเป้าหมายในชีวิตด้วยเทคนิคนี้เป็นเรื่องที่ง่ายมาก คุณเพียงสำรวจความต้องการของชีวิตในด้านต่างๆ โดยใช้ framework ที่สามารถทำให้คุณเห็นมิติของชีวิตในแต่ละด้านเช่น Life Wheel จากนั้นใช้เวลาคิดถึงเป้าหมายในชีวิตในแต่ละด้าน
การค้นหาและสร้างเป้าหมายชีวิตด้วยวิธีนี้อาจเป็นเพียงตัวกระตุ้นให้คุณนึกถึงความสำคัญของด้านต่างๆ ในชีวิตด้วยความรวดเร็วและอาจมีข้อเสียคือคุณอาจมีเป้าหมายในชีวิตมากเกินไปโดยที่ไม่รู้สึกกับมันมากเท่าไหร จนทำให้คุณลืมมันไปง่าย
ในการค้นหาด้วยเทคนิคนี้ หากคุณรู้สึกกับเป้าหมายในชีวิตด้านไหนมากที่สุด คุณสามารถเก็บมันไว้ และลบเป้าหมายในชีวิตในด้านที่คุณไม่สนใจหรือให้ความสำคัญน้อยกว่าออกไป เพื่อให้คุณสามารถให้ความสำคัญไปกับสิ่งที่สำคัญมากที่สุดได้
2. เทคนิค Why How What จาก Simon Sinek
อีกวิธีค้นหาและสร้างเป้าหมายในชีวิตจากเทคนิคที่โด่งดังจาก Simon Sinek ผู้เขียนหนังสือ Start with Why หากคุณยังไม่เคยรู้จักเขา คุณอาจเข้าไปใน TED Talk ที่เขาได้พูดถึงความสำคัญของการเริ่มต้นด้วยคำถามคำว่าทำไมก่อน
แม้ว่าในการพูดของเขาจะได้พูดถึงความสำคัญของ Why ในบริบทที่มีความใกล้เคียงกับองค์กร แต่ภายหลังเขาก็ได้เขียนหนังสือเพื่อช่วยให้คนได้ค้นหาเพิ่มเติมกับการหา Why ในแต่ละคน
ประเด็นสำคัญอันหนึ่งที่อาจได้รับจากแนวความคิดนี้คือ เป้าหมายในชีวิตของคุณคืออะไรอาจไม่สำคัญเท่ากับการที่คุณจะรู้ว่าทำไมเป้าหมายในชีวิตนั้นถึงมีความสำคัญ ถ้าหากคุณไม่รู้สึกว่าเป้าหมายในชีวิตของคุณนั้นมีความสำคัญ คุณจะไม่มีทางทำอะไรเพื่อเป้าหมายในชีวิตนั้นได้แน่นอน
3. สำรวจดูความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
วิธีนี้เป็นวิธีที่ค่อนข้างแปลก แต่เห็นผลได้ชัดเจนมาก เพราะเราหลายคนอย่างน้อยต้องใช้ชีวิตอยู่กับความไม่เท่าเทียมกัน ความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การค้นหา ความอยุติธรรมที่คุณรู้สึกแย่และรบกวนจิตใจของคุณอย่างลึกซึ้งอาจช่วยสร้างแรงบันดาลใจเพื่อให้คุณได้กลับไปช่วยสร้างความยุติธรรมให้กับมันได้
เมื่อสำรวจดูเราจะพบว่ามีหลายคนที่มีเป้าหมายในชีวิตจากที่มีพื้นฐานจากความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้น และสิ่งเหล่านี้มักจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้พวกเขาได้เป็นอย่างดีเช่น
มหาตมา คานธี (Mahatma Gandhi) ที่ถูกสั่งให้ย้ายจากรถไฟชั้นหนึ่งเพียงเพราะผู้โดยสารผิวขาวไม่พอใจที่เขานั่งร่วมด้วยในชั้นหนึ่ง ทั้งๆ ที่เขาซื้อตั๋วมาอย่างถูกต้อง
โอปราห์ วินฟรีย์ (Oprah Winfrey) ที่ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจตั้งแต่วัยเด็กจากการะระทำของคนในครอบครัวของเธอ
เนลสัน แมนเดลา (Nelson Mandela) ที่ถูกสั่งจำคุก 27 ปีจากกฏหมายที่ไม่เป็นธรรม ในประเทศแอฟริกาใต้
บุคคลเหล่านี้ล้วนแต่ช่วยเหลือผู้คนที่ประสบกับความอยุติธรรมที่พวกเขาได้รับ และคุณก็สามารถนำสิ่งเหล่านี้เป็นแรงขับเคลื่อนให้กับตัวเองได้ เพราะการช่วยเหลือคนอื่นที่ได้พบกับความอยุติธรรมเช่นเดียวกับคุณจะช่วยทำให้คุณรู้สึกได้รับการเติมเต็ม และในขณะเดียวกันคุณเองก็เป็นคนที่เข้าใจพวกเขามากกว่าใครๆ ว่าความอนุติธรรมที่เกิดขึ้นสร้างบาดแผลให้กับผู้คนได้อย่างไร
4. เทคนิค Five Whys
การหาเป้าหมายในชีวิตด้วย Five Whys อาจเริ่มต้นจากการใช้ Five Whys กับเรื่องเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของตัวเองก่อน โดยคุณสามารถลองตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวเองและใช้ Five Whys กับมัน การเริ่มต้นจะเป็นไปได้ดีหากเกิดขึ้นจากการสังเกตมากกว่าการนึกคิดเอาเองเช่น
สิ่งที่คุณชอบทำ
สิ่งที่คุณขาดมันไปแล้วรู้สึกกระวนกระวาย
อะไรที่ทำให้คุณมีความสุข
สิ่งที่คุณทำแล้วรูสึกภูมิใจ
การใช้ Five Whys จะช่วยทำให้คุณมองเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของตัวเองในเรื่องต่างๆ คุณอาจพบว่ามันมีจุดเชื่อมโยงเดียวกันและมองเห็นสิ่งที่คุณต้องการอย่างแท้จริง
นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ Five Whys ในการตรวจสอบเป้าหมายของตัวเองได้ด้วย หากคุณได้ค้นหาเป้าหมายจากวิธีอื่นๆ แล้วคุณยังรู้สึกว่ามีบางอย่างที่อยากจะสำรวจ คุณสามารถใช้ Five Whys ในการสำรวจมันได้เช่นกัน
สิ่งที่เกิดขึ้นจาก Five Whys เป็นเพียงตัวอย่างของคำตอบ คุณอาจไม่ต้องยึดติดกับมันมากนัก แต่ระหว่างนั้นคุณอนุญาติให้คำตอบที่แท้จริงค่อยๆ ปรากฏออกมาได้ และลองเลือกคำตอบที่เหมาะสมสำหรับคุณดู
5. หาคำตอบในคำถามที่สำคัญ
การหาคำตอบในคำถามที่สำคัญเป็นวิธีที่พบกันบ่อย นั่นคือการหาคำใบ้ที่เกี่ยวเนื่องกับตัวคุณเอง คุณสามารถใช้เวลาว่างในการหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ดูได้ คำถามเหล่านี้จะเข้าไปทำงานในจิตใจและเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการตั้งใจค้นหาเป้าหมายในชีวิตของตัวเอง
การใช้วิธีนี้คือคุณต้องมีเวลาที่ว่างและสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการค้นหาคำตอบจริงๆ การมีสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย สบายๆ จะช่วยทำให้คำตอบที่ออกมาไม่ได้เกิดจากกรอบเรื่องงาน สภาพสังคม หรือความจำเป็นอื่นๆ ได้ การหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ด้วยความรีบร้อนอาจไม่ช่วยให้คำตอบที่ออกมามีคุณภาพได้ คำตอบที่มีคุณภาพมีความสำคัญมากกว่าคำตอบที่ได้ออกมาดูดี แต่ไม่ทำให้เกิดอะไรขึ้นมา ดังนั้นการให้เวลากับมันคือสิ่งที่สำคัญ
อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกเติมเต็มทุกครั้งหลักจากตื่นนอน
อะไรคือความทุกข์จากการตัดสินใจที่ผิดพลาดของคุณ
ความฝันในวัยเด็กของคุณคืออะไร คุณสามารถเติมเต็มความฝันในวัยเด็กของคุณได้หรือไม่
เรื่องที่คุณภูมิใจที่สุด มีความสุขที่สุด ในชีวิตประจำวันคืออะไร
หากคุณย้อนกลับไปเป็นเด็กอายุ 7 ขวบ เด็กคนนั้นจะบอกอะไรกับคุณ แล้วพวกเขาจะทำอะไร
แน่นอนว่าหากคุณได้คำตอบแล้วคุณอาจใช้ Five Whys ในการตรวจสอบ ค่อยๆ ส่องลึกไปยังคำตอบของคุณอีกก็ได้เช่นกันว่า ทำไมสิ่งเหล่านี้ถึงเกิดขึ้นและมีความสำคัญกับคุณ
หากคุณมีเป้าหมายในชีวิตของตัวเองแล้ว คุณรู้แล้วว่าทำไมเป้าหมายในชีวิตของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญ และสำคัญกับคุณอย่างไร คุณสามารถใช้ SMART goal เพื่อแบ่งเป้าหมายในชีวิตของคุณเป็นช่วงสั้นๆ เป็น milestones และให้เป้าหมายเล็กๆ ของคุณมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นได้
ไม่ว่าคุณจะรู้สึกภูมิใจ มีแรงปันดาลใจ หรือไม่แน่ใจกับเป้าหมายในชีวิตที่คุณมีอยู่ สิ่งสำคัญคือคุณควรจะต้องจดบันทึกและลองใช้ชีวิตอยู่กับมันเป็นเวลาสัก 1 ปี หากคุณรู้สึกไม่แน่ใจกับเป้าหมายในชีวิตที่มี คุณอาจเลือกจดบันทึกสิ่งที่คุณรู้สึกลังเล ไม่แน่ใจเก็บไว้ และทิ้งไว้ระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะสำรวจความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเป้าหมายในชีวิตนั้นอีกครั้ง
แหล่งอ้างอิงและข้อมูลเพิ่มเติม
Urbinner เป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้เติบโตจากการเรียนรู้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยทีมนักจัดกระบวนการจะพาคุณไปเรียนรู้ทักษะที่นำไปสู่การเข้าใจตัวเอง สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการตระหนักรู้ร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนสามารถทำในสิ่งที่มีคุณค่าและความหมายสำหรับตัวเอง องค์กร และชุมชนของเราได้