Highlights
ทักษะระหว่างบุคคล หรือ Interpersonal Skills เป็น องค์ความรู้ที่ช่วยในการปฏิสัมพันธ์และความเข้าใจกันระหว่างบุคคล
ทักษะนี้นำไปสู่ความรู้สึกปลอดภัยทางใจในที่ทำงาน (psychological safety) ซึ่งทำให้การทำงานมีความสุข และประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น
ประโยชน์ของการเรียนรู้ทักษะนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แต่เพียงการทำงาน เราสามารถใช้ทักษะนี้เพื่อช่วยให้ความสัมพันธ์ที่บ้านดีขึ้นได้ด้วย
หลายครั้งที่องค์กรของเรามีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ มีความเป็นมืออาชีพ แต่การทำงานร่วมกันก็ยังมีปัญหา อาจมีเรื่องเล็กน้อยที่ทำให้เข้าใจผิดกันได้ จนกระทั่งมีเรื่องใหญ่ที่ทำให้รู้สึกว่าการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งที่ทำให้เราเหนื่อยมาก และไม่ชอบที่จะร่วมงานกับคนอื่น
การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคลากรเป็นพื้นฐานที่สำคัญในทุกองค์กร ซึ่งทักษะระหว่างบุคคลเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะช่วยทำให้บุคลากรสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขได้
เนื้อหาในบทความ
ทักษะระหว่างบุคคล (Interpersonal Skills) คืออะไร?
ทักษะระหว่างบุคคล (Interpersonal Skills) คือ องค์ความรู้ และ soft skills ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิสัมพันธ์และความเข้าใจกันของบุคคลแต่ละคน โดยทักษะระหว่างบุคคลไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการสื่อสารหรือการพูดเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการสร้างความเข้าใจร่วมกัน การฟังรับกัน หรือการเข้าใจคนอื่น (empathy) เป็นต้น
ทักษะระหว่างบุคคลที่ดีจะมีพื้นฐานมาจากความตระหนักรู้ในตัวเอง (self-awareness) ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจในตัวเอง การเท่าทันตัวเอง จนสามารถเข้าใจคนอื่น สื่อสารกับคนอื่น อยู่ร่วมกันคนอื่น และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทักษะระหว่างบุคคล (Interpersonal Skills) สำคัญอย่างไร?
การมีทักษะระหว่างบุคคลจะทำให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจระหว่างกัน ความเคารพซึ่งกันและกัน และนำไปสู่ความรู้สึกปลอดภัยทางใจในที่ทำงาน (psychological safety) และช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายที่ต้องการร่วมกันได้
ทักษะระหว่างบุคคลไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการสร้างความประทับใจให้กับคนอื่น การพูดให้น่าฟัง พูดเพื่อให้คนอื่นคล้อยตาม หรือทำตามที่เราต้องการ แต่ทักษะระหว่างบุคคลจะทำให้เกิดความเข้าใจกัน มีความสุขเมื่ออยู่ร่วมกัน และทำให้เราสามารถทำงาน ทำหน้าที่บางอย่างได้ด้วยความเข้าใจกันและกันได้
ประโยชน์ของทักษะระหว่างบุคคล (Interpersonal Skills) ในที่ทำงาน หรือองค์กร
การทำงานที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกัน ในที่ทำงานเราต้องพบกับบุคคลที่มีพื้นฐานหลากหลาย และมีบทบาทที่แตกต่างกัน หากขาดความเข้าใจและไว้วางใจซึ่งกันและกันแล้วทีมนั้นจะเป็นทีมที่ไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน
นอกจากนั้นการทำงานร่วมกันในองค์กรที่มีคนที่มีทักษะระหว่างบุคคลสูงยังเอื้ออำนวยต่อการทำให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยทางใจในที่ทำงาน (psychological safety) สูงขึ้นด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงาน
ตำแหน่งและหน้าที่ของพนักงานบางคนในองค์กรบางตำแหน่งจำเป็นที่จะต้องใช้ทักษะระหว่างบุคคลมากกว่าบางตำแหน่ง โดยมากเป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับผู้คนเช่น ฝ่ายทรัพยากรบุคคล อาจารย์ หัวหน้า พนักงานต้อนรับ พนักงานขาย หรือผู้ให้บริการ เป็นต้น
นอกจากนี้ทักษะระหว่างบุคคลยังมีประโยชน์มากในชีวิตครอบครัวหรือที่บ้านของคุณด้วย
ประโยชน์ของทักษะระหว่างบุคคล (Interpersonal Skills) ที่บ้าน
คนที่มีความเข้าใจในทักษะระหว่างบุคคลจะสามารถอยู่ร่วมกันกับคนอื่นได้ดีมากขึ้น นอกจากนั้นคุณยังอาจช่วยเหลือคนอื่นได้จากทักษะระหว่างบุคคลที่คุณมีอีกด้วย
ตัวอย่างเช่นหากคุณมีทักษะการรับฟังอย่างลึกซึ้ง เมื่อคนในครอบครัวมีปัญหา คุณจะเป็นคนที่ใครๆ ก็อยากจะพูดคุยเพื่อให้คุณช่วยรับฟังปัญหาเหล่านั้นโดยไม่ตัดสิน พ่อแม่ผู้ปกครองที่ไม่สนิทกับลูกก็อาจต้องกลับมารับฟังลูกในแบบที่เขาเป็นจริงๆ เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจลูกมากขึ้น แทนที่จะใช้การฟังเพื่อตอบโต้ เป็นต้น
ตัวอย่างของทักษะระหว่างบุคคล (Interpersonal Skills)
ทักษะระหว่างบุคคลที่ดีควรจะเริ่มจากการเข้าใจตัวเองก่อน เพื่อที่เราจะสามารถเข้าใจในตัวคนอื่นได้มากขึ้น โดยตัวอย่างของทักษะระหว่างบุคคลมีความกว้างขวางมากเช่น
การเข้าใจคุณค่าพื้นฐานที่แตกต่างกันของบุคคล การเข้าใจความแตกต่างของคุณค่าที่แต่ละคนให้ความสำคัญ นำไปสู่ความเข้าใจกัน และทำให้เกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจกัน เข้าใจกันมากขึ้น เพราะหลายครั้งเราต้องการผลลัพธ์ที่ดีเหมือนกัน แต่มีคุณค่าที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
การสื่อสารอย่างสันติ การสื่อสารอย่างสันติ (non-violence communication) เป็นอีกหนึ่งทักษะที่สามารถทำให้เรามีบทสนทนาที่ดี และเข้าใจกันระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง โดยเข้าถึงความต้องการและความรู้สึกของกันและกันได้
รูปแบบการสื่อสารความหวังดี แต่ละคนมีรูปแบบการสื่อสารความหวังดีที่แตกต่างกัน เราเรียกสิ่งนี้ว่า 5 ภาษารัก ซึ่งสิ่งนี้เองที่อาจทำให้หลายครั้งที่เราทำอะไรดีๆ คนอื่นมากมายแต่เขากลับไม่รับรู้ นั่นเพราะว่าแต่ละคนมีช่องทางการรับรู้ความหวังดีแตกต่างกัน
การฟังอย่างลึกซึ้ง เป็นกระบวนการที่ช่วยทำให้เราเข้าใจคนที่อยู่ข้างหน้ามากขึ้น และยังช่วยดูแลความทุกข์ ความเครียด ความเศร้า หรือสภาวะอารมณ์ด้านลบของคนที่อยู่กับเราได้เป็นอย่างดี กระบวนการฟังอย่างลึกซึ้ง การะบวนการฟังอย่างลึกซึ้งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เรามีพื้นที่ปลอดภัยทางใจในที่ทำงาน (psychological safety) มากขึ้น
การเข้าใจคนอื่น (empathy) การเข้าใจคนอื่นหรือ empathy ช่วยทำให้เรารับรู้สถานการณ์ ความรู้สึก สิ่งที่เขาคิดในช่วงเวลานั้น empathy เป็นสิ่งที่ช่วยลดความขัดแย้งในการอยู่ร่วมกัน เพราะแม้ว่ามนุษย์จะมีเหตุผลที่ดีมากแค่ไหน เหตุผลที่ดีทั้งหมดก็สร้างความไม่พอใจให้กันและกันได้ แต่การมีความรู้สึกร่วมกัน การเห็นความรู้สึกของกันและกันจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เราอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
ความแตกต่างกันจากการแสดงออก แต่ละคนมีพื้นฐานแตกต่างกันในเช่นใน สัตว์ 4 ทิศ ซึ่งจะพบว่าแต่ละคนมีสไตล์การทำงานที่แตกต่างกัน มีการแสดงออกที่แตกต่างกัน การเข้าใจความแตกต่างจากการแสดงออกเหล่านี้จะช่วยทำให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น และเห็นใจกันได้ง่ายมากขึ้น
วิธีการพัฒนาทักษะระหว่างบุคคล (Interpersonal Skills) ในที่ทำงาน องค์กร
การพัฒนาทักษะระหว่างบุคคลในที่ทำงานหรือในองค์กรนั้นสามารถทำได้ด้วยการเพิ่มพื้นที่ และสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่มีการใช้ทักษะระหว่างบุคคลเช่น
สุนทรียสนทนา การมีบทสนทนาที่มีความลุ่มลึก สามารถช่วยทำให้ทักษะระหว่างบุคคลพัฒนามากขึ้นได้ แม้ว่าสุนทรียสนทนาเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยากสำหรับบริบทในที่ทำงาน แต่การคุยกันในลักษณะที่มีคุณภาพเหมือนกับสุนทรียสนทนา ก็ทำให้เกิดความเข้าใจกันได้
ทำกิจกรรมที่เอื้ออำนวยต่อการรู้จักกัน กิจกรรม ice-breaking บางกิจกรรมอาจนำไปสู่การแลกเปลี่ยนระหว่างกัน น้อยมากที่เราจะได้เห็นและเข้าใจบทบาทอื่นนอกนอกจากการเป็นเพื่อนร่วมงานในที่ทำงาน ซึ่งหลายคนกำลังต้องเผชิญกับความทุกข์ การมีพื้นที่สำหรับพูดคุยกันในเรื่องเหล่านี้เหมือนที่ได้เข้าร่วมเวิร์คช็อปศิลปะบำบัดก็ช่วยทำให้ empathy เกิดขึ้นได้
สร้างเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง การเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง ค้นหาความล้มเหลว ความสำเร็จ สภาวะอารมณ์ของตัวเอง เป็นพื้นฐานที่ดีในการเข้าใจคนอื่น และจะนำไปสู่การเข้าใจคนอื่นมากยิ่งขึ้น เพราะก่อนที่เราจะเอาใจเขามาใส่ใจเราได้ เราก็ต้องเข้าใจสภาวะของตัวเองก่อนเช่นกัน
ใช้กระบวนการเรียนรู้ร่วมกันเช่น กระบวนการ After Action Review ที่ให้โอกาสทุกคนได้สื่อสาร และทำความเข้าใจกันและกัน นอกจากนั้นยังช่วยทำให้องค์กรพัฒนาขึ้น และเกิดองค์ความรู้ที่เป็นขององค์กรเองได้อีกด้วย
ทักษะระหว่างบุคคลเป็นทักษะที่เอื้ออำนวยไม่ให้ทีมอยู่ในสภาวะเป็นทีมที่ไร้ประสิทธิภาพ (Dysfunctional team) ได้ และเราควรป้องกันการทำงานร่วมกันที่ไร้ประสิทธิภาพก่อนที่สถานการณ์จะแย่ลงเรื่อยๆ
หากคุณรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทีมเริ่มเปลี่ยนไป หรือมีสัญญาณเล็กน้อยที่เกี่ยวกับความขัดแย้ง คุณอาจไม่จำเป็นต้องรอให้สถานการณ์เข้าขั้นเลวร้ายก่อนที่จะพยายามหาทางออก เพราะเมื่อทีมได้เรียนรู้เกี่ยวกับทักษะระหว่างบุคคลที่นำไปสู่ความเข้าใจกันและทำงานร่วมกันแล้ว ประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันก็จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย
แหล่งอ้างอิงและข้อมูลเพิ่มเติม
Urbinner เป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้เติบโตจากการเรียนรู้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยทีมนักจัดกระบวนการจะพาคุณไปเรียนรู้ทักษะที่นำไปสู่การเข้าใจตัวเอง สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการตระหนักรู้ร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนสามารถทำในสิ่งที่มีคุณค่าและความหมายสำหรับตัวเอง องค์กร และชุมชนของเราได้
Comments