เมื่อมีปัญหาหลายคนอาจนึกถึงนักจิตวิทยาการปรึกษาเป็นลำดับต้นๆ ว่าพวกเขาสามารถช่วยคุณได้ แต่ในใจลึกๆ ก็ยังสงสัยว่าการไปหานักจิตวิทยาจะสามารถช่วยได้อย่างไร? การคุยกับนักจิตวิทยาที่ต้องจ่ายค่าบริการจะแตกต่างกับการคุยกับเพื่อนสนิทอย่างไร?
การทำความเข้าใจว่านักจิตวิทยาจะสามารถช่วยเหลือคุณตอนที่กำลังต้องเผชิญหน้ากับปัญหาได้อย่างไรจะสามารถช่วยทำให้คุณมีการตัดสินใจที่ดีขึ้นได้ว่า คุณควรเข้าไปพบกับนักจิตวิทยาหรือไม่ โดยคุณสามารถลองดูว่านักจิตวิทยาจะช่วยเหลือคุณอย่างไรบ้าง?
1. นักจิตวิทยาจะรับฟังความรู้สึกและปัญหาของคุณ
คุณสามารถเล่าปัญหา ความไม่สบายใจ หรือแม้แต่ความกังวลเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณได้รับรู้ ให้กับนักจิตวิทยาได้อย่างไม่ต้องกลัวและเกรงใจเหมือนที่คุณปรึกษาคนอื่น การพูดคุยกับนักจิตวิทยาจะช่วยให้เวลที่คุณรู้สึกดีขึ้นได้ เพราะนักจิตวิทยาจะตั้งใจรับฟังเพื่อทำความเข้าใจและช่วยเหลือคุณ ทำให้การเล่าปัญหาหรือระบายความรู้สึกออกมาแต่ละครั้งแตกต่างจากการคุยทั่วไป
หลายคนอาจรู้สึกเกรงใจเมื่อต้องเล่าปัญหาต่างๆ ให้กับเพื่อนสนิท หรือคนอื่น เพราะลึกๆ คุณเองก็ทราบดีกว่าเพื่อนสนิทของคุณก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ปัญหาชีวิตของตัวเองด้วยเช่นกัน การเล่าเรื่องต่างๆ ให้เพื่อนสนิทฟังเป็นสิ่งที่ดี แต่บางปัญหาที่อาจต้องเล่าซ้ำไปมาอาจทำให้คุณไม่กล้าเล่าได้อย่างเต็มที่
2. นักจิตวิทยาสามารถช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาที่แท้จริงได้ดีขึ้น
พฤติกรรมและความรู้สึกของมนุษย์เป็นสิ่งที่ซับซ้อน นักจิตวิทยาจะไม่เพียงแค่ฟังคุณระบายแล้วจบไป แต่พวกเขาจะฟังคุณและช่วยเหลือให้คุณเห็นต้นตอที่แท้จริงของปัญหาที่บางครั้งเราไม่อาจเห็นได้ด้วยตัวเอง
การปรึกษาเพื่อนหรือคนรู้จักแตกต่างกับการปรึกษานักจิตวิทยาตรงที่บางครั้งการเล่าบางเรื่องให้คนที่ไม่รู้จักคุณหรือมีขอบเขตในการปฏิสัมพันธ์กับคุณ อาจสามารถทำได้ง่ายกว่า
นักจิตวิทยาที่เพิ่งรู้จักคุณแทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามในการไม่ตัดสินคุณเลย เพราะพวกเขาได้รับการฝึกฝนมาก่อน มีประสบการณ์ให้คำปรึกษา และไม่มีความคุ้นเคยเดิมๆ ที่คุณอาจมีเคยได้รับมาก่อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตัวอย่างเช่น เพื่อนของคุณอาจมีภาพจำของคุณที่เกิดขึ้นที่เกิดตั้งแต่อดีต แม้ว่าคุณเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เพื่อนสนิทคุณอาจยังมีภาพคุณในแบบเดิมอยู่ ซึ่งคล้ายกับพ่อแม่หลายคนที่รู้สึกว่าลูกยังเป็นเด็กในสายตาพวกเขาเสมอ ความรู้สึกเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่ขัดขวางการเข้าไปทำความรู้จักคุณ และทำให้คุณไม่ได้เข้าไปดูแลปัญหาที่แท้จริงได้
การเข้าไปดูแลปัญหาเหล่านี้อาจทำให้เรามีท่าทีที่เปลี่ยนไปในการรับมือกับปัญหา และรู้ว่าสาเหตุจริงๆ ของปัญหาคืออะไร
3. พาคุณไปสำรวจรูปแบบของปัญหาด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะ
นักจิตวิทยามีประสบการณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมและปัญหามากมายจากผู้ที่มาปรึกษา นักจิตวิทยาต่างกับการปรึกษากับคนทั่วไปเพราะเขาเห็นรูปแบบของชีวิตคนที่หลากหลาย คุณอาจมองว่าความคิดบางอย่างของตัวเองผิดปกติ แต่จริงๆ แล้วมันอาจไม่ผิดปกติมากขนาดนั้น เพราะนักจิตวิทยาเคยเห็นรูปแบบและตัวอย่างเหล่านี้มาก่อนแล้ว
นักจิตวิทยามีความเชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมมนุษย์ ซึ่งหลายครั้งปัญหาที่เกิดขึ้นในมนุษย์แต่ละคนมักไม่ต่างกันมากขนาดนั้น การเห็นความเปราะบาง ความไม่มั่นคง หรือความทุกข์ใจของผู้รับบริการจึงทำให้นักจิตวิทยาเข้าใจความเป็นมนุษย์มากขึ้น และมีประสบการณ์มากยิ่งขึ้น
4. ช่วยให้คุณมีสภาวะอารมณ์ที่มั่นคงมากขึ้น
เมื่อได้ใช้เวลาไปกับการพบนักจิตวิทยาจนถึงระยะเหมาะสมที่นักจิตวิทยาและคุณมีเข้าใจปัญหาที่มีร่วมกันแล้ว คุณจะมีสภาวะทางอารมณ์ที่มั่นคงมากขึ้น ซึ่งสภาวะทางอารมณ์ที่มั่นคงเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่การเห็นต้นตอของปัญหา การเห็นแนวทางของทางออก ความพยายามและการค่อยๆ ปรับพฤติกรรมของคุณ
การมีสภาวะอารมณ์ที่มั่นคงอาจต้องอาศัยความต่อเนื่อง บางครั้งคุณอาจต้องเข้าพบนักจิตวิทยาตามนัดมากกว่าหนึ่งครั้ง การพบนักจิตวิทยาที่มีประสิทธิภาพเหมือนการออกกำลังกาย บางครั้งคุณอาจรู้สึกขี้เกียจ เบื่อมาก แต่คุณก็ต้องไป ซึ่งแตกต่างจากการเล่าปัญหาให้เพื่อนสนิท ที่คุณมักจะเล่าเรื่องต่างๆ ตามสภาวะอารมณ์ เหมือนเป็นการระบายที่อาจไม่ช่วยดูแลต้นตอของปัญหาที่แท้จริง
แม้ว่าบางครั้งที่อาจขัดกับความรู้สึกของคุณ โดยเฉพาะการนัดหมายแบบระยะยาวที่แม้ว่าบางวันคุณอาจรู้สึกดี มีความสุข คุณก็ต้องไป เพราะความรู้สึกดีเหล่านั้นอาจเกิดขึ้นจากสิ่งอื่นชั่วคราว และปัญหายังไม่หมดไป การมีสภาวะที่มั่นคงเกิดจากการดูแลปัญหาเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม
5. นักจิตวิทยาสามารถช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนรูปแบบในการคิดที่ไม่มีประโยชน์
แม้เรารู้จะรู้ว่าการปรับความคิดเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปได้ แต่หลายครั้งที่เราก็ยังเผลอไปคิดเรื่องที่ทำร้ายตัวเองอย่างเดิมซ้ำๆ นั่นเพราะการเปลี่ยนแปลงระบบความคิดในช่วงแรกเป็นสิ่งที่ยาก และท้าทายจริงๆ
โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมของเราอาจไม่เอื้ออำนวยมากเพียงพอให้เราสร้างพฤติกรรมของสมองรูปแบบใหม่ที่เป็นประโยชน์กับเรา การพบนักจิตวิทยาจะช่วยเหลือให้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบของความคิด และเป็นสภาพแวดล้อมใหม่ที่ส่งเสริมสิ่งดีๆ ให้กับคุณได้
6. ช่วยสนับสนุนความก้าวหน้าและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้กับคุณ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความต่อเนื่อง เมื่อคุณมีสภาวะที่มั่นคงมากขึ้น จนสามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว สิ่งหนึ่งที่นักจิตวิทยาสามารถช่วยคุณได้คือการพัฒนาตัวเอง การวางเป้าหมาย หรือการทำให้ตัวคุณเองมีความพร้อมในการรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
คนส่วนใหญ่มักจะมาพบนักจิตวิทยาตอนที่ปัญหาเกิดขึ้นอย่างหนักแล้ว แต่เมื่อคุณพบกับนักจิตวิทยาจนสามารถผ่านปัญหาแรกไปได้แล้ว หากคุณได้กลับมาทำความเข้าใจปัญหาในชีวิตที่มีขนาดเล็กลงมาถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ก่อนที่มันจะกลายเป็นปัญหาที่สร้างความทุกข์ให้กับคุณมากเหมือนเดิม
โดยปัญหาเหล่านั้นอาจเป็นเรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันที่ขัดขวางการเติบโตของคุณ หรือไม่ทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้น ก็ได้เช่น
เป็นคนที่สายตลอด อยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ตรงเวลา
ไม่อยากโกหก บางครั้งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงโกหกทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็น
อยากเอาชนะความขี้เกียจของตัวเอง
ชอบตามใจคนอื่น แต่ลึกๆ ตัวเองก็ไม่อยากทำตามที่คนอื่นบอก ต้องทำอย่างไร
7. สอนคุณให้มีทักษะที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อปัญหาชีวิตหลายอย่างผ่านพ้นไปแล้ว นักจิตวิทยาสามารถช่วยเหลือให้คุณมีทักษะการใช้ชีวิตที่ทำให้คุณสามารถมีชีวิตอย่างมีความสุขได้มากขึ้นเช่น
พูดได้ดีขึ้น แสดงออกเพื่อให้คนอื่นเข้าใจคุณมากขึน
เข้าใจตัวเองมากขึ้น เข้าใจการกระทำของคนอื่นมากขึ้น
มีความเห็นใจเพื่อนร่วมงานมากขึ้น รู้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสมกับเพื่อนร่วมงานมากขึ้น
เครียดน้อยลง ฟุ้งซ่านน้อยลง รู้ว่าจะจัดการกับความเครียดได้อย่างไร
จัดการกับคำต่อว่าจากคนอื่นที่ไม่ทำให้เกิดประโยชน์ได้ดีขึ้น
รู้วิธีดูแลตัวเองไม่ให้ถูกปัญหาเดิมทำร้ายอีก หรือจัดการกับปัญหาเดิมได้ดีขึ้น
การพบนักจิตวิทยาสามารถช่วยทำให้คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับคนรอบข้างได้อีกด้วย เพราะนักจิตวิทยามีความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและรูปแบบความสัมพันธ์ต่างๆ ที่จะช่วยทำให้คุณมีความสุขกับตัวเองได้มากขึ้น และมีความสุขกับคนอื่นได้มากขึ้น
หากไม่แน่ใจว่าปัญหาที่คุณมีสามารถปรึกษานักจิตวิทยาได้หรือไม่ คุณสามารถติดต่อสอบถามสถานบริการที่คุณเลือกได้ หรือสำหรับบางคนที่ไม่แน่ใจว่าการมีเรื่องเหล่านี้อยู่ในใจเป็นเหตุผลที่เพียงพอใจการไปพบนักจิตวิทยาหรือไม่ คุณสามารถดูเหตุผลที่เพียงพอสำหรับคุณที่จะไปพบนักจิตวิทยา เพื่อตัดสินใจเข้าพบนักจิตวิทยาประกอบการตัดสินใจได้
Related topics
แหล่งอ้างอิงและข้อมูลเพิ่มเติม
Urbinner เป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้เติบโตจากการเรียนรู้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยทีมนักจัดกระบวนการจะพาคุณไปเรียนรู้ทักษะที่นำไปสู่การเข้าใจตัวเอง สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการตระหนักรู้ร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนสามารถทำในสิ่งที่มีคุณค่าและความหมายสำหรับตัวเอง องค์กร และชุมชนของเราได้
Comments